หัวข้อ   “สรุปผลงานเศรษฐกิจของรัฐบาลนายกฯ อภิสิทธิ์: นโยบายใดบ้างที่ควรสานต่อ?”
                 นักเศรษฐศาสตร์พอใจผลงานเศรษฐกิจที่ผ่านมาของรัฐบาลอภิสิทธิ์
5.12 คะแนนจากคะแนนเต็ม 10 คะแนน  พร้อมแนะรัฐบาลใหม่ควรสานต่อ
โครงการเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าระบบประกันสังคม (สำหรับผู้ที่ไม่อยู่ในระบบ)
มากที่สุด   ส่วนโครงการที่ไม่ควรสานต่อมากที่สุดคือ โครงการขายไข่แบบชั่งกิโล
นอกจากนี้   ยังเสนอให้รัฐบาลชุดใหม่เน้นนโยบายพัฒนาการศึกษา  ลงทุนใน
โครงสร้างพื้นฐาน และสร้างความร่วมมือในภูมิภาคเพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถ
ในการแข่งขันในระยะยาว
ดีมาก (5)
ดี (4)
ปานกลาง (3)
พอใช้ (2)
แย่ (1)
 
 
 
                 ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ(กรุงเทพโพลล์) เปิดเผยผลสำรวจความเห็น
นักเศรษฐศาสตร์ที่ทำงานอยู่ในหน่วยงานด้านการวิเคราะห์ วิจัยเศรษฐกิจระดับชั้นนำของ
ประเทศ 30 แห่ง จำนวน 76 คน เรื่อง “
สรุปผลงานเศรษฐกิจของรัฐบาลนายกฯ
อภิสิทธิ์: นโยบายใดบ้างที่ควรสานต่อ?
”   โดยเก็บข้อมูลระหว่างวันที่ 10-13 พ.ค.
ที่ผ่านมา พบว่า
 
                 นักเศรษฐศาสตร์ประเมินผลงานการบริหารเศรษฐกิจในภาพรวมของ
รัฐบาลนายกฯ อภิสิทธิ์ โดยให้คะแนน 5.12 คะแนน(จากเต็ม 10)
  โดยมีรายละเอียด
ในแต่ละด้านดังนี้
  - ด้านการเติบโตของ GDP 6.85 คะแนน
  - ด้านการนำพาเศรษฐกิจไทยในช่วง Hamburger Crisis 6.39 คะแนน
  - ด้านการบริหารจัดการหนี้สาธารณะ 5.03 คะแนน
  - ด้านการสร้างความเป็นธรรมในสังคม ลดความเหลื่อมล้ำ
  ด้านเศรษฐกิจ
4.76 คะแนน
  - ด้านการแก้ปัญหา/ดูแลเสถียรภาพของราคาสินค้า 4.00 คะแนน
  - ด้านการบริหารจัดการราคาพลังงาน 3.70 คะแนน
 
                 สำหรับการประเมินผลงานตามโครงการ(ที่อยู่ในความสนใจของสังคม)จำนวน 18 โครงการ พบว่า
โครงการที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ไม่พอใจในผลการทำงาน และเห็นว่ารัฐบาลใหม่ไม่ควรสานต่อ
3 อันดับแรก
คือ
 
  • โครงการ(ทดลอง)ขายไข่แบบชั่งกิโล ได้ 1.99 คะแนน (ร้อยละ 84.2 ไม่ต้องการให้สานต่อ)
  • โครงการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล เพื่อไม่ให้ราคาสินค้า และค่าครองชีพของประชาชนปรับตัว
    สูงขึ้น ได้ 3.38 คะแนน (ร้อยละ 64.5 ไม่ต้องการให้สานต่อ)
  • โครงการขายสลากกินแบ่งฯ แบบออนไลน์ ได้ 3.67 คะแนน (ร้อยละ 43.4 ไม่ต้องการให้สานต่อ)
 
                 ส่วนโครงการที่นักเศรษฐศาสตร์พอใจในผลการทำงานของรัฐบาล และต้องการให้รัฐบาลใหม่
เข้ามาสานต่อมากที่สุด 3 ลำดับแรก
คือ
 
  • โครงการเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าระบบประกันสังคม (สำหรับผู้ที่ไม่อยู่ในระบบ) ได้ 7.33
    คะแนน (ร้อยละ 92.1 ต้องการให้สานต่อ)
  • โครงการเบี้ยยังชีพคนชรา 500 บาทต่อเดือน ได้ 7.29 คะแนน (ร้อยล 90.8 ต้องการให้สานต่อ)
  • โครงการเรียนฟรี 15 ปี ได้ 7.16 คะแนน(ร้อยล 90.8 ต้องการให้สานต่อ)
 
                 ด้านข้อเสนอของนักเศรษฐศาสตร์ต่อรัฐบาลชุดใหม่ในการดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจที่สำคัญ
มีดังนี้
 

1.  พัฒนาการศึกษา ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน และสร้างความร่วมมือในภูมิภาคเพื่อเสริมสร้าง
     ขีดความสามารถในการแข่งขันในระยะยาว (ร้อยละ 30.8)

 

2.  ลดการบิดเบือนกลไกตลาด (ราคาน้ำมันดีเซลและแก๊สLPG)/ลดการแซกแซงราคาสินค้า
     (อย่าแทรกแซงในลักษณะที่ทำให้เกิดการรวมตัวของผู้ผลิต หรือ Cartel) /ลดการผูกขาด
     ตลาดพลังงาน/จัดหาพลังงานทดแทนให้เพียงพอ (ร้อยละ 20.5)

 

3.  ให้ความสำคัญกับการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชันอย่างจริงจัง (ร้อยละ 15.4)

 
                 (โปรดพิจารณารายละเอียดของผลสำรวจดังต่อไปนี้)
 
       ตารางที่ 1   ความคิดเห็นต่อการบริหารเศรษฐกิจภาพรวมในรอบ 2 ปีครึ่ง ของรัฐบาลนายกฯ อภิสิทธิ์

การบริหารเศรษฐกิจ
ในแต่ละด้าน
(ค่าเป็นร้อยละ
ยกเว้นช่องคะแนน)
ผลงาน
คะแนน
(เต็ม 10)
ดีเยี่ยม
ดี
พอใช้
แย่
แย่มาก
ไม่ตอบ
/ไม่ทราบ
1. การเติบโตของ GDP เฉลี่ยต่อปี
3.9
63.3
28.9
0.0
0.0
3.9
6.85
2. การนำพาเศรษฐกิจไทยในช่วง
    Hamburger Crisis
0.0
56.6
38.2
2.6
0.0
2.6
6.39
3. การแก้ปัญหา/ดูแลเสถียรภาพ
    ของราคาสินค้า
1.3
11.8
44.8
27.6
13.2
1.3
4.00
4. การบริหารจัดการราคาพลังงาน
0.0
9.2
42.1
34.2
13.2
1.3
3.70
5. การบริหารจัดการหนี้สาธารณะ
0.0
25.0
52.7
15.8
3.9
2.6
5.03
6. การสร้างความเป็นธรรมในสังคม
    ลดความเหลื่อมล้ำด้านเศรษฐกิจ
0.0
18.4
55.4
19.7
3.9
2.6
4.76
รวม
1.1
30.1
42.9
17.0
6.6
2.3
5.12
 
 
       ตารางที่ 2   ประเมินผลงานโครงการเศรษฐกิจของรัฐบาลนายกฯ อภิสิทธิ์ และมีโครงการใดควรสานต่อ

โครงการเศรษฐกิจ
(ค่าเป็นร้อยละ
ยกเว้นช่องคะแนน)
ผลงาน
รัฐบาลใหม่
ไม่ตอบ/
ไม่ทราบ
ดีเยี่ยม
ดี
พอใช้
แย่
แย่มาก
คะแนน
(เต็ม 10)
ควร
สานต่อ
ไม่ควร
สานต่อ
1. นโยบายการเพิ่ม
    ค่าแรงขั้นต่ำ
1.3
40.8
43.5
9.2
1.3
5.82
72.4
23.7
3.9
2. โครงการประกัน
    รายได้เกษตรกร
5.3
40.8
35.4
5.3
0.0
6.33
78.9
7.9
13.2
3. โครงการแก้ปัญหา
    หนี้นอกระบบ
3.9
38.2
31.6
17.1
1.3
5.71
76.3
15.8
7.9
4. โครงการธนาคาร
    ไปรษณีย์ (ปล่อย
    สินเชื่อให้กับผู้มี
    รายได้ต่ำ)
1.3
34.2
23.7
11.8
7.9
5.29
56.6
22.3
21.1
5. โครงการเรียนฟรี
    15 ปี
19.7
54.0
14.5
5.3
2.6
7.16
90.8
5.3
3.9
6. โครงการเบี้ยยังชีพ
    คนชรา 500 บาท
    ต่อเดือน
14.5
59.2
19.7
1.3
0.0
7.29
90.8
3.9
5.3
7. เปิดโอกาสให้
    ประชาชนเข้าระบบ
    ประกันสังคม
    (สำหรับผู้ที่
    ไม่อยู่ในระบบ)
19.7
55.4
18.4
3.9
0.0
7.33
92.1
5.3
2.6
8. โครงการกู้ซื้อบ้านหลัง
    แรก 0% 2 ปี รวมถึง
    ช่วยแบ่งเบาภาระค่า
    จดจำนอง และค่าธรรม
    เนียมการโอนครึ่งหนึ่ง
    หรือจ่ายตามจริงสูงสุด
    ร้อยละ 1 จากค่าโอน
    ปกติ ร้อยละ 2 ของ
    ราคาประเมิน
10.5
31.6
34.3
11.8
3.9
5.89
59.2
32.9
7.9
9. โครงการ(ทดลอง)
    ขายไข่แบบชั่งกิโล
0.0
1.3
11.8
43.5
32.9
1.99
5.3
84.2
10.5
10. นโยบายลดภาษี
     สรรพสามิตของน้ำมัน
     ดีเซล เพื่อไม่ให้ราคา
     สินค้า และค่าครองชีพ
     ของประชาชนปรับตัว
     สูงขึ้น
0.0
14.5
27.6
27.6
23.7
3.38
28.9
64.5
6.6
11. การเข้าถึงสินเชื่อของ
     กลุ่มแท็กซี่ และผู้ค้า
     หาบเร่แผงลอย
0.0
35.5
36.8
13.2
1.3
5.57
73.7
13.1
13.2
12. การช่วยเหลือผู้
     ประกอบอาชีพ
     จักรยานยนต์รับจ้าง
     โดยการจดทะเบียนให้
     ถูกต้องตามกฏหมาย
     เพื่อแก้ปัญหาการ
     ส่งเงินให้กลุ่มคนต่างๆ
10.5
39.5
30.3
3.9
1.3
6.58
82.9
2.6
14.5
13. การใช้ไฟฟ้าฟรีสำหรับ
     ผู้ใช้ต่ำกว่า 90 หน่วย
     ต่อเดือน (โดยผู้ใช้
     ไฟฟ้ามากต้องจ่ายเงิน
     เพิ่มขึ้น เพื่อนำเงินส่วน
     นี้มาช่วยประชาชน
     ที่ใช้ไฟน้อย)
6.6
34.2
30.3
15.8
6.6
5.49
55.3
38.2
6.5
14. การยกเลิกการอุดหนุน
     ก๊าซแอลพีจีภาค
     อุตสาหกรรม ให้ใช้
     ราคาตลาด (แต่ใน
     ส่วนของภาคครัวเรือน
     และขนส่งจะตรึงราคา
     ไว้เหมือนเดิม)
5.2
46.1
23.7
6.6
6.6
6.04
75.0
13.2
11.8
15. โครงการถนนไร้ฝุ่น
3.9
28.9
21.1
21.1
11.8
4.77
53.9
32.9
13.2
16. โครงการขายสลากกิน
      แบ่งฯ แบบออนไลน์
1.3
17.1
17.1
25.0
18.4
3.67
35.5
43.4
21.1
17. โครงการภายใต้
     นโยบายเศรษฐกิจ
     เชิงสร้างสรรค์ เช่น
     การปรับอุตสาหกรรม
     ที่ใช้แรงงานเข้มข้น
     ราคาถูก เป็นอุตสาห
     กรรมนวัตกรรมและ
     ความคิดสร้างสรรค์
     เป็นต้น
10.5
32.9
31.6
11.8
5.3
5.86
82.9
9.2
7.9
18. โครงการลดต้นทุนภาค
     เกษตร โดยเฉพาะ
     อาหารสัตว์ พ่อพันธุ์
     แม่พันธุ์ อันจะช่วยให้
     ราคาหมู ไก่ และไข่
     อยู่ในระดับที่เหมาะสม
9.2
43.5
26.3
10.5
1.3
6.34
86.9
3.9
9.2
 
 
       ตารางที่ 3   ข้อเสนอต่อรัฐบาลชุดใหม่ในการดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจ

นโยบายเศรษฐกิจ
1. พัฒนาการศึกษา ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน และสร้างความร่วมมือในภูมิภาคเพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถ
    ในการแข่งขันในระยะยาว (ร้อยละ 30.8)
2. ลดการบิดเบือนกลไกตลาด(ราคาน้ำมันดีเซลและแก๊สLPG)/ลดการแซกแซงราคาสินค้า(อย่าแทรกแซงใน
    ลักษณะที่ทำให้เกิดการรวมตัวของผู้ผลิต หรือ Cartel) /ลดการผูกขาดตลาดพลังงาน/จัดหาพลังงานทดแทน
    ให้เพียงพอ (ร้อยละ 20.5)
3. ให้ความสำคัญกับการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชันอย่างจิงจัง (ร้อยละ 15.4)
4. ลดโครงการประชานิยม และควรคำนึงผลกระทบระยะกลางกับระยะยาว ไม่ควรมุ่งหวังผลระยะสั้นแต่สร้างปัญหา
    ระยะยาว (ร้อยละ 12.8)
5. การกระจายรายได้อย่างเป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำทางด้านเศรษฐกิจ (เก็บภาษีที่ดิน) (ร้อยละ 10.3)
6. อื่นๆ เช่น นโยบายการเงินการคลังควรสอดคล้องมากกว่านี้/พิจารณาโครงการที่จะสานต่อที่มีผลกระทบกับ
    ประชาชนโดยตรง/ควรมีนโยบายที่ชัดดเจนสำหรับผู้ลงทุนจากต่างประเทศ (ร้อยละ 10.2)

     ***หมายเหตุ: มีนักเศรษฐศาสตร์จำนวน 33 คนตอบคำถามในประเด็นนี้
 

** หมายเหตุ:  รายงานผลสำรวจความเห็นนักเศรษฐศาสตร์ฉบับนี้   เป็นการสำรวจความเห็นส่วนตัวของ
                     นักเศรษฐศาสตร์ซึ่งมิได้สื่อถึงแนวนโยบายขององค์กรที่นักเศรษฐศาสตร์สังกัดอยู่แต่อย่างใด

 
 
รายละเอียดในการสำรวจ
วัตถุประสงค์:
                  1. เพื่อสะท้อนความเห็นในประเด็นด้านเศรษฐกิจจากผู้ที่มีความรู้และความเชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ
                      โดยตรงไปยังสาธารณชนโดยผ่านช่องทางสื่อมวลชน
                  2. เพื่อเสนอแนะต่อรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเตรียมการและวางแผนงานเพื่อก่อให้เกิด
                      ประโยชน์สูงสุดกับประเทศไทย
 
กลุ่มตัวอย่าง:
                        เป็นนักเศรษฐศาสตร์ที่สำเร็จการศึกษาทั้งระดับปริญญาตรีและปริญญาโทในสาขาเศรษฐศาสตร์
               (กรณีสำเร็จการศึกษาด้านเศรษฐศาสตร์เฉพาะปริญญาตรี หรือปริญญาโท หรือปริญญาเอก อย่างใดอย่างหนึ่ง
               จะต้องมีประสบการณ์ในการทำงานด้านวิเคราะห์/วิจัย/หรืองานที่เกี่ยวข้องที่ต้องใช้ความรู้ความสามารถ
               ด้านเศรษฐศาสตร์อย่างน้อย 5 ปีจนถึงปัจจุบัน) ที่ทำงานอยู่ในหน่วยงานด้านการวิเคราะห์ วิจัยเศรษฐกิจ
               ระดับชั้นนำของประเทศ จำนวน 30 แห่ง ได้แก่ ธนาคารแห่งประเทศไทย   สำนักงานคณะกรรมการพัฒนา
               การเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ   สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง   สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
               สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร   สำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้ากระทรวงพาณิชย์   สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนา
               ประเทศไทย   มูลนิธิสถาบันวิจัยนโยบายเศรษฐกิจการคลัง   บริษัททริสเรทติ้ง   บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย
               สมาคมธนาคารไทย   ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย   ธนาคารกรุงไทย
               ธนาคารไทยพาณิชย์   ธนาคารกรุงศรีอยุธยา  ธนาคารนครหลวงไทย   ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย
               บริษัทหลักทรัพย์ภัทร   บริษัทหลักทรัพย์เคจีไอ   บริษัทหลักทรัพย์เอเชียพลัส   บริษัทหลักทรัพย์พัฒนสิน
               บริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซีย ไซรัส   บริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคิน   บริษัทหลักทรัพย์ไอร่า
               คณะเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยทักษิณ   คณะเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
               คณะเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่   คณะเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
               คณะวิทยาการจัดการมหาวิทยาลัยขอนแก่น   และอาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์และนักวิจัยประจำศูนย์วิจัย
               มหาวิทยาลัยกรุงเทพ
 
ระเบียบวิธีการสำรวจ:
                        รวบรวมข้อมูลโดยการส่งแบบสอบถามออนไลน์ไปยังนักเศรษฐศาสตร์ในหน่วยงานที่กำหนดภายใน
               ระยะเวลาที่กำหนด
 
ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล: 10 - 13 พฤษภาคม 2554
 
วันที่เผยแพร่ผลสำรวจ: 18 พฤษภาคม 2554
 
สรุปข้อมูลพื้นฐานของกลุ่มตัวอย่าง:
ตารางข้อมูลประชากรศาสตร์
 
จำนวน
ร้อยละ
ประเภทของหน่วยงานที่กลุ่มตัวอย่างทำงานอยู่:    
             หน่วยงานภาครัฐ
30
39.5
             หน่วยงานภาคเอกชน
29
38.2
             สถาบันการศึกษา
17
22.3
รวม
76
100.0
เพศ:    
             ชาย
40
52.6
             หญิง
36
47.4
รวม
76
100.0
อายุ:
 
 
             26 – 35 ปี
28
36.9
             36 – 45 ปี
22
28.9
             46 ปีขึ้นไป
26
34.2
รวม
76
100.0
การศึกษา:
 
 
             ปริญญาตรี
3
3.9
             ปริญญาโท
56
73.7
             ปริญญาเอก
17
22.4
รวม
76
100.0
ประสบการณ์ทำงาน:
 
 
             1 - 5 ปี
16
21.1
             6 - 10 ปี
23
30.3
             11 - 15 ปี
9
11.8
             16 - 20 ปี
9
11.8
             ตั้งแต่ 21 ปีขึ้นไป
19
25.0
รวม
76
100.0
 
ติดตามกรุงเทพโพลล์ผ่าน twitter ได้ที่  twitter bangkokpoll
Download PDF file:  
 
ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์)
Email: bangkokpoll@bu.ac.th      โทร. 0-2350-3500 ต่อ 1770-1776